วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เรื่องของบาปกว้างกว่าศีล เจตนาชนิดไหนคือกรรม

บทความนี้เหมือนคราวที่แล้ว คือ แสดงความคิดเห็นตอบชาวบ้าน แล้วก็เลยก้อปมาใส่บล็อกด้วย
ฉะนั้น ถ้าใครอ่านแล้วรู้สึกไม่ค่อยเท้าความที่มาที่ไปเท่าไหร่ ก็ขออภัย อิอิ : )
ขี้เกียจเรียบเรียงใหม่น่ะ

บาป หมายถึง อกุศลที่ส่งให้ถึงความเดือดร้อน หรือสิ่งที่ทำให้จิตเสียคุณภาพ
ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องผิดศีลก็บาปได้ โกรธก็บาป รำคาญก็บาป
เพลินกับละครตอนค่ำก็บาป ยินดีกับการทะเลาะกันก็บาป
แต่ที่ใช้กันในภาษาไทย ถ้าใช้คำว่าอกุศลแทนจะเข้าใจได้ง่ายกว่า

กรรม หมายถึง การกระทำทางกาย หรือวาจา หรือใจ ที่ประกอบด้วยเจตนา
ถ้าไม่มีเจตนาไม่ถือว่าเป็นกรรม

เจตนา หมายถึง การเลือกจับอารมณ์ของใจ สมมุติบนโต๊ะมีของหลากหลายชนิด
เช่น ของกิน เครื่องสำอางค์ ซีดีเพลง รูปถ่ายดาราดัง ฯลฯ
เรากวาดตาไปปุ๊บ สายตาเราสะดุดจุดไหน แช่ตรงไหน คิดปรุงแต่งอย่างไร
กระบวนการตรงนี้ประกอบไปด้วยเจตนามากมาย

ควรระวังว่า การเลือกจับอารมณ์ของใจ กับความคิดนึกของเรา
อาจไม่เหมือนกัน

เช่น
มีเจตนาบาป แต่คิดว่าเจตนาดี เหมือนจับเหล็กร้อนเต็มมือ เพราะนึกว่าไม่ร้อน
มีเจตนาบาป อย่างรู้แต่ยังทำ เหมือนจับเหล็กร้อนโดยที่รู้มาก่อนว่ามันร้อน

ยกตัวอย่างเช่น ชวนเพื่อนดื่มเหล้า ในใจนึกว่าเหล้าเป็นสิ่งดี เรากำลังทำสิ่งดีอยู่
ด้วยการช่วยเพื่อนให้รู้จักของดี ใจมีสุขภูมิใจ แต่เป็นสุขที่มากับโมหะ

เจตนาคือ จิตจับเอาการชวนเพื่อนดื่มเหล้า เป็นอารมณ์ = จงใจทำบาป
เจตนาคือ จิตจับเอาความยินดีที่ทำสำเร็จ เป็นอารมณ์ = ยินดีในบาป
เจตนาคือ จิตจับเอาความหวังดีต่อเพื่อน เป็นอารมณ์ = เป็นบุญ
เจตนาคือ จิตจับความยินดีที่เพื่อนได้ดี เป็นอารมณ์ = เป็นบุญ

ตอนทำนี้ เจตนาคงสลับกันไปมารวดเร็ว แต่ที่ยืนโรงเป็นหลักน่าจะอันแรกนะ?
หมายเหตุ เป็นการแยกคร่าวๆ ตาม "ความเข้าใจส่วนตัว" โปรดใช้วิจารณญาณ
---------------------------------------------


ขับรถหลับในชนคนตาย

ตอนขับ ถ้าง่วง นึกรู้ว่าขับไปมีสิทธิสูงที่จะเกิดอุบัติเหตุ แต่จงใจขับทั้งอย่างนั้น
หนึ่งประมาท สองมีเจตนาร่วมนิดๆ ที่จะยอมเสี่ยงชีวิตตัวเองกับชาวบ้าน
ถึงจะปลอบใจตัวเองว่า "ไม่เกิดอุบัติเหตุหรอก แค่นี้เอง" ก็เถอะ

เปรียบว่า เราอยู่บนตึก ข้างล่างมีคนเยอะ เราโยนหินลงไป
ในใจไม่ได้ตั้งใจวางแผนจะให้โดนหัวใคร แต่ก็กึ่งๆ รับรู้ว่ามีสิทธิโดนหัวชาวบ้าน
ดังนั้นจะเรียกว่า เจตนาบริสุทธิ์เลยคงไม่ได้

แต่ถ้าข้างล่างไม่มีคนเลย เราโยนหินลงไป ไม่ได้นึกจะให้โดนหัวใคร
ทั้งแน่ใจว่าไม่เสี่ยงจะโดนหัวใคร อย่างนี้เรียกว่าไม่มีเจตนาทำร้าย


ถ้าตอนขับ สติยังดีๆ อยู่  ขับๆ วูบหลับไปเองไม่ทันตั้งตัว
บังเอิญไปชนใครตาย ถือว่าไม่มีเจตนา ไม่เป็นกรรมในการฆ่าใคร
---------------------------------------

กระโดดเข้ารถBTS ที่กำลังจะปิด

ถ้าใจรู้ว่ามีสิทธิเสี่ยงก่อความเดือดร้อนให้ตัวเองและคนอื่น
เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุ ตัวเองเจ็บ ผู้โดยสารช้า จนท เหนื่อย บจก เสียหาย
แต่ก็จงใจให้ใครๆ ที่ว่ารวมตัวเองด้วย ร่วมเสี่ยงไปกับการกระทำนั้น

เจตนาแล้ว บาปแล้ว

แต่ถ้าในใจรู้ชัดว่า ทันแหงๆ ไม่ได้เสี่ยงไม่ได้ทำให้ใครเสียหายเลย
เว้นแต่คนเห็น อาจมีบางคนอาจจะตกใจเกินเหตุเองซึ่งช่วยไม่ได้
อย่างนี้ก็ไม่มีเจตนาที่จะเบียดเบียนใคร
------------------------------------------------


เคยอ่านพระท่านว่า
คนเราไม่รู้ไปหมดทุกอย่าง ว่าเหตุการณ์ไหนจะทำอะไรจึงจะถูกต้อง
ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาท จึงควรถือหลักว่า

ขณะที่ตัดสินใจจะเลือกทำข้อไหนนั้น ให้อยู่ในสภาพปัญญาดีที่สุด เจตนาดีที่สุด
ปัญญาดีที่สุด คือคิดถี่ถ้วน หาข้อมูลอะไรๆ เท่าที่จะทำได้แล้วในตอนนั้น
เจตนาดีที่สุด คือมีจุดประสงค์ที่ทำเพื่อประโยชน์ ไม่หวังโทษแก่ใคร

จากนั้นก็ทำไปอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้