วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

การแสดงความเห็น ต้องมาคู่กับการหาความรู้

คัดจาก หนังสือ
ตั้งกระทรวงพระพุทธศาสนา เหตุผลที่แท้อยู่ที่ไหน
คนไทยไม่ใจแคบ แต่ระวังไว้: อย่าให้ปัญญาแคบ

© พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต)

ISBN 974-90723-3-2
พิมพ์ครั้งที่๓ - ตุลาคม ๒๕๔๕





ถ้าจะเอาอย่างเขา ก็ต้องเอามาให้ครบกระบวน
จะกล้าแสดงความเห็น ก็ต้องหาความรู้ให้เก่งด้วย





            จะต้องพูดกันตามความเป็นจริง แล้วก็ปฏิบัติให้เกิดผลดี ถ้า
จะสอนหรือจะทำงานในเรื่องวิชาการ เราจะต้องมีความแม่นยำชัดเจน
ถ่องแท้จริงๆ ต้องพยายามให้ได้อย่างนั้น ซึ่งอันนี้เราต้องยอมรับว่า
ฝรั่งเขาเอาจริงเอาจังมากในเรื่องการค้นคว้าหาความรู้



            เวลานี้เป็นที่น่าวิตกอยู่เรื่องสังคมไทย ว่าจะเอาอย่างฝรั่งแล้ว
ไปเน้นในเรื่องการแสดงความเห็น ชอบพูดกันนักว่าต้องหัดให้เด็กไทย
กล้าแสดงความเห็น มันไม่ตรงเรื่อง เด็กไทยฝึกไม่นานหรอกมันกล้า
แสดงความเห็น ไวกว่าฝรั่ง ถ้าแต่ก่อนมันขี้อาย ไม่ช้าหรอกมันกล้ายิ่ง
กว่าฝรั่งอีก (ขอให้ดูเรื่องเพศเป็นตัวอย่าง สมัยก่อนอายนัก แต่
เดี๋ยวนี้ฝรั่งแทบตามไม่ทัน) แต่ส่วนที่ขาดคืออะไร คือกระบวนการหา
ความรู้


            ฝรั่งที่กล้าแสดงความเห็นอย่างนั้น เพราะว่ามันเป็นส่วนหนึ่ง
ของกระบวนการหาความรู้  หมายความว่า ถ้าจะเอาอย่างฝรั่ง ก็ต้องเอา
มาให้ครบกระบวน การแสดงความเห็น ต้องมาคู่กับการหาความรู้
ความเห็นต้องมาจากฐานของความรู้ที่แม่นยำชัดเจนที่สุด และการ
แสดงความเห็นนั้นก็เป็นวิธีการในการที่จะกระตุ้นให้ไปหาความรู้
เพิ่มขึ้นอีก เพื่อจะให้ได้ความรู้ที่ถ่องแท้ชัดเจนมาแสดงความเห็นที่
ถูกต้องใช้ประโยชน์ได้จริง เพราะฉะนั้นเป้าหมายแท้อยู่ที่การหาความรู้


            จึงต้องย้ำว่า การแสดงความเห็นต้องมาคู่กับการหาความรู้
เมื่อความรู้แม่นยำ ถ่องแท้ ชัดเจน ความเห็นก็ยิ่งเป็นประโยชน์แต่ถ้า
ความเห็นไม่มีฐานความรู้ มันก็เลื่อนลอย ไม่ได้เรื่องอะไร แสดงไป
ทำไม กล้าแสดงความเห็น เมื่อไม่มีความรู้ ไม่มีความเข้าใจ ไม่มี
ข้อมูลความจริง ก็เป็นความเห็นที่เลื่อนลอยไปเท่านั้นเอง ไม่รู้ไปเน้น
กันอยู่ทำไมให้กล้าแสดงความเห็น โดยไม่ได้ย้ำให้ครบกระบวนการ


            ท่านว่าอย่างไร ท่านไปเล่าเรียนอยู่ต่างประเทศมานาน เห็นฝรั่ง
เป็นอย่างไร ในเรื่องการหาความรู้
            พระนวกะ: คือ คนที่จะถามอะไรนี่ ต้องเตรียมตัว อ่าน
ให้รู้มากขึ้น ไม่ใช่ว่าพูดเป็นนกแก้วนกขุนทอง
            พระธรรมปิฎก: ใช่ แล้วแสดงความเห็นเพียงมาเอาชนะกัน
บ้างอะไรบ้าง ว่าไปเรื่อยเปื่อย ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่รู้เรื่องนั้นเลย ก็แสดง
ความเห็นกันไป วุ่นวายไปหมด เวลานี้สังคมไทยกำลังจะเป็นอย่างนั้น
การแสดงความเห็นโดยไม่มีฐานของความรู้ ก็จะยิ่งซ้ำเติมสังคมให้
หนักเข้าไปอีก ฉะนั้น ถ้าจะเอาอย่างฝรั่งก็ต้องให้ครบกระบวนการ







จะเป็นชาวพุทธจริง ต้องถือธรรมเป็นใหญ่
ไม่ใช่อยู่แค่เอาอัตตาออกมาตีกัน



            เหมือนอย่างเราจะประชุม แล้วก็เอาวิธีประชุมแบบฝรั่งมา แต่
เราขาดองค์ประกอบสำคัญในกระบวนการของการประชุม คือมนุษย์
เรานี้ ถ้ามันไม่มีอะไรสูงเหนือตัวตน แล้วตัวตนของแต่ละคนจะขยาย
โตออกมา แล้วมันก็จะมาปะทะขัดแย้งกัน แล้วก็จบอยู่ที่นั่น เวลาคน
ประชุมกัน ถ้าไม่มีความใฝ่ปรารถนาต่อเป้าหมายที่สูง หรือหลักการ
ใหญ่สักอย่างหนึ่ง พอมาแสดงความเห็นของแต่ละคน ถ้าคนอื่นแสดง
ความเห็นไม่ถูกใจเรา ไม่ตรงกับเรา เราก็โกรธ แล้วก็ขัดแย้งกัน เลย
ติดอยู่แค่นั้นเอง


            แต่ในสังคมที่จะก้าวไปได้ เขามีสิ่งหนึ่งที่สูงเหนือตัวตน หรือ
สิ่งที่ต้องการซึ่งใหญ่กว่าตัวตน เช่นสังคมที่ใฝ่ความจริง ต้องการรู้
ความจริง ต้องการได้หลักการที่แท้ ความใฝ่ต่อความจริงหรือความ
อยากได้อันนี้มันเหนือกว่าตัวตน ถึงอย่างไรก็ต้องเอาสิ่งที่หมายนั้นให้
ได้ตัวตนก็เลยเป็นเรื่องเล็กไป มันก็สยบตัวตนได้


            ตัวอย่างสังคมญี่ปุ่น ที่เคยเอาชาติเป็นใหญ่ อะไรๆต้องเพื่อ
ญี่ปุ่น ถ้าเพื่อญี่ปุ่นเป็นใหญ่เอาทั้งนั้น เรื่องส่วนตัวก็ถูกสยบได้กำลังมี
เรื่องหรือผลประโยชน์ส่วนตัว ทะเลาะกัน แต่พอบอกว่าเพื่อญี่ปุ่น
ผลประโยชน์ส่วนตัวนั้นเล็กลงไปเลย ยอมลงกันได้หมด เพราะมีจุด
รวมที่ใหญ่กว่า


            แต่สังคมไทยเรานี้ ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรที่เป็นสิ่งใหญ่เหนือ
ตัวตนของแต่ละคน ที่จะเป็นจุดรวมอันเดียวได้ ที่ทุกคนก็ใฝ่
เหมือนกัน ก็เลยติดอยู่กับตัวตนของแต่ละคน แล้วตัวตนนั้นก็ขยาย
โตออกไปตีกันกระทบกันระเกะระกะไปหมด แต่ถ้าคนไทยมีอะไรสัก
อย่างหนึ่งที่ทุกคนใฝ่ปรารถนาร่วมกัน มันจะสยบตัวตนของแต่ละคน
ลงไปได้ ฝรั่งมีตัวนี้คือความอยากจะเข้าถึงตัวความจริงให้ได้ แล้ว
เพื่อให้ถึงความจริงนั้นก็จะยอม


            ความจริงที่ฝรั่งต้องการนั้น ก็ไม่ใช่อะไรอื่น เขาจะถึงหรือยัง
ไม่ถึงก็ตาม ก็อยู่ในคำว่า “ธรรม” นั่นเอง ที่จริงชาวพุทธไทยเสียอีกมี
หลักชัดเจนอยู่แล้ว พระพุทธเจ้าสอนไว้นักว่าให้ถือธรรมเป็นใหญ่ ถือ
ธรรมสูงสุด แต่คนไทยก็เถลไถลไปหาผีสางเทวดา ไปไม่ถึงไหน ใน
ที่สุดก็มาจบแค่ผลประโยชน์ตน และอัตตาตัวตนของแต่ละคน


            พวกฝรั่งนั้น ตัวตนของเขาก็สำคัญ ฝรั่งก็ถือตัวเหมือนกัน
แต่ความอยากเข้าถึงความจริงนี่มันใหญ่กว่า เขาก็จึงสามารถข้ามพ้น
ตัวตนไปได้ขั้นหนึ่ง ท่านไปจบปริญญาเมืองฝรั่งมาเห็นด้วยไหม


            ทีนี้สังคมของเราไปเอารูปแบบแต่เพียงวิธีการประชุมบ้าง
อะไรบ้างมา แค่นั้นไม่ได้เรื่องหรอก เรื่องนี้จึงน่าเป็นห่วง จะให้เด็กกล้า
แสดงความเห็น เดี๋ยวได้ยินๆ มันไม่ครบกระบวน ต้องเน้นเรื่องการหา
ความรู้ อันนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ฝรั่งจะอุทิศเวลาให้กับการหาความรู้
มากเหลือเกิน บางคนเพื่อจะรู้อะไรนิดเดียวแล้วอุทิศชีวิตทั้งชีวิตให้
เลย ข้ามน้ำข้ามทะเลไปสุดขอบฟ้าก็ได้เพื่อความรู้อันเดียวนี่ของเราไม่
มีหายากเหลือเกิน ใช่ไหม


            พระนวกะ: เริ่มมีแล้ว
            พระธรรมปิฎก: เริ่มมีหรือ ต้องการหาความรู้จริงหรือ ถ้ามี
ได้ก็ดีสิ เอ คนรุ่นใหม่ๆ ไว้ใจได้หรือเปล่า อาจจะมีบ้าง ต้องแค่ว่ามี
บ้าง เพราะว่าเท่าที่ทราบ เดี๋ยวนี้ครูบ่นกันมาก บอกว่าเด็กเดี๋ยวนี้อะไร
ยากหน่อยไม่สู้แล้ว หนักหน่อยไม่ว่าคิดหนักหรือทำหนัก ต้องใช้ความ
เพียรพยายาม ไม่เอาเลย เดี๋ยวนี้ครูบ่นกันอย่างนี้ ก็ดีถ้าเป็นอย่างที่
ท่านว่า ก็เป็นนิมิตหมายที่ดี

1 ความคิดเห็น:

  1. มาเยี่ยมชมหน้าตาบล็อคปรับปรุงใหม่ เยี่ยมๆ อิอิ
    เนื้อหาเดี๋ยวค่อยมาอ่านอีกที :)

    ตอบลบ