วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ทานที่เป็นบาป, ดนตรีที่เป็นบุญ

บทความเรื่องนี้ คัดลอกจากคำแปลศัพท์ 3 คำที่เนื่องกัน ในหนังสือพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ รุ่นชำระและปรับปรุงใหม่ ของพระพรหมคุณาภรณ์ ครับ



 เนื้อความโดยย่อ

ทานที่พระโพธิสัตว์ทำ บางทีก็เป็นทานที่ภายหลังพระพุทธเจ้าตรัสว่าไม่ดี
นั่นเพราะพระโพธิสัตว์ยังอยู่ระหว่างพัฒนาตน ยังไม่ตรัสรู้
จึงได้แต่ทำเท่าที่คิดว่าดีที่สุดในคราวนั้นๆ

ทานที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าไม่ดี ยกตัวอย่างเช่น ให้ผู้หญิง ให้สุรา ให้มหรสพ
เป็นต้น

แต่ไงก็ตาม ไม่ใช่ว่ามหรสพอย่างดนตรีหรือการแสดงทุกชนิดทุกกรณี
จะเป็นบาปไปหมด ที่เป็นบุญก็มี คือ เป็นมหรสพประเภทส่งเสริมธรรมะ
---------------------------------------------------------------------

สัตตสดกมหาทาน  ทานใหญ่อย่างละ ๗๐๐


(ตาม ที่อรรถกถาประมวลไ้ว้ ๗ หมวด คือ ช้าง ๗๐๐ ม้า ๗๐๐ รถ ๗๐๐ สตรี ๗๐๐ วัวนม ๗๐๐ ทาส ๗๐๐ ทาสี ๗๐๐ )  ซึ่งชาดกเล่าว่า  พระเวสสันดรบริจาคก่อนเสด็จออกจากวังไปอยู่ที่เขาวงกตในแดนหิมพานต์,


แต่ตามหลักพระพุทธศาสนา อิตถีทาน คือการให้สตรี จัดเข้าในจำพวกทานที่ไม่เป็นทาน  และไม่เป็นบุญ  (คือเป็นบาป ซึ่งในมิลินทปัญหากล่าวว่าพาผู้ให้ไปสู่อบาย) จึงน่าวิเคราะห์ว่าในเรื่องนี้มีเหตุผลหรือมีนัยที่น่าศึกษาอย่างไร,  ในที่นี้ จะกล่าวถึงข้อมูลและข้อสังเกตเบื้องต้นไว้ประกอบการพิจารณา คือ



ก) ในโอกาสนี้ พระเวสสันดรให้ทานโดยสั่งให้แจกจ่าย ทั้งให้ผ้าแก่ผู้ต้องการผ้า ให้สุราแก่นักเลงสุรา ให้อาหารแก่ผู้ต้องการอาหาร อรรถกถาอธิบายว่าพระเวสสันดรก็ทราบอยู่ว่าการให้น้ำเมาเป็นทานที่ไร้ผล แต่ให้เพื่อให้นักเลงสุราที่มาก็ได้ไป ไม่ต้องไปพูดว่ามาแล้วไม่ได้


ข) สตรีที่เป็นทานในคราวนี้ ตามเรื่องว่านั่งประจำรถ ๕๐๐ คันซึ่งเป็นทาน คันละคน (ทำนองว่าเป็นคนประจำรถ)


ค) ในการให้ทานบุคคล พระเวสสันดร คงจะได้รับหรือให้เป็นไปโดยความเห็นชอบของบุคคลนั้น เช่นเดียวกับการให้ภริยา



ง) ในเวลามสูตร (องฺ นวก.๒๓/๒๒๓/๔๐๖) พระพุทธเจ้าตรัสเล่าว่าพระองค์เคยทรงเกิดเป็นพราหมณ์ชื่อว่าเวลามะ และได้ให้มหาทาน มีของที่เป็นทานยิ่งใหญ่มากมาย ตั้งแต่ถาดทองคำจำนวน ๘๔,๐๐๐ รวมทั้งช้าง รถ โคนม หญิงสาว อย่างละ ๘๔,๐๐๐ (ถ้าเทียบกันก็ย่ิงใหญ่กว่ามหาทานของพระเวสสันดรครั้งนี้มากมาย) แล้วลงท้ายพระองค์ตรัสว่า ทานของผู้ให้อาหารแก่คนมีสัมมาทิฏฐิเพียงคนเดียว มีผลมากกว่ามหาทานของเวลามพราหมณ์ที่กล่าวมานั้น และตรัสถึงกศลกรรมที่มีผลมากยิ่งๆ ขึ้นไป ตามลำดับ  อรรถกถาอธิบายด้วยว่า ทานบางอย่างของเวลามพราหมณ์ก็ไม่นับว่าเป็นทาน  แต่ให้เพราะจะให้ครบถ้วน ไม่ต้องมีใครมาพูดว่าไม่มีอันนั้นไม่มีอันนี้ ทำนองว่าให้ครบสมบูรณ์ตามนิยมของโลก ซึ่งมาเข้าข้อที่เป็นหลักทั่วไปว่า



จ)  พระ โพธิสัตว์บำเพ็ญบารมี ก็คือกำลังพัฒนาตนอยู่ แม้จะบำเพ็ญความดีอย่างยวดยิ่งยากที่ใครอื่นจะทำได้ แต่เพราะยังไม่ตรัสรู้ ความดีที่ทำส่วนมากก็เป็นความดีตามที่นิยมยึดถือเข้าใจกันในกาลสมัยนั้นๆ คือทำดีที่สุดเท่าที่ทำได้ในกาลเทศะนั้น  เช่น ออกบวชเป็นฤาษี ได้ฌานสมาบัติ ได้โลกียอภิญญา แล้วไปเกิดในพรหมโลก (อรรถกถากล่าวว่าสุเมธดาบส ก่อนออกบวชก็ได้บริจาคสัตตสดกมหาทาน)
 ***************************************************

ทาน การให้, ยกมอบแก่ผู้อื่น,  ให้ของที่ควรให้ แก่คนที่ควรให้ เพื่อประโยชน์แก่เขา,  สละให้ปันสิ่งของของตนเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น; สิ่งที่ให้ ,ทรัพย์ิสินสิ่งของที่มอบให้หรือแจกออกไป;

ทาน๒  คือ
๑. อามิสทานให้สิ่งของ
๒. ธรรมทานให้ธรรม;

ทาน ๒อีกหมวดหนึ่ง คือ
๑.สังฆทาน ให้แก่สงฆ์ หรือให้เพื่อส่วนรวม
๒. ปาฏิกบุคลิกทาน ให้เจาะจงแก่บุคคลผู้ใดผู้หนึ่งโดยเฉพาะ

(ข้อ ๑ ในทศพธราชธรรม,
ข้อ ๑ ในบารมี ๑๐,
ข้อ ๑ ในบุญกิริยาวัตถุ ๓ และ ๑๐,
ข้อ ๑ ในสังคหวัตถุ ๔,
ข้อ ๑ ในสัปปุริสบัญญัติ ๓)
******************************************************



ทานมิใช่ถูกต้องดีงามหรือเป็นบุญเสมอไป
ทานบางอย่างถือไม่ได้ว่าเป็นทาน และเป็นบาปด้วย
ในพระไตรปิฎก (วินย.๘/๙๗๙/๓๒๖)
กล่าวถึงทานที่ชาวโลกถือกันว่าเป็นบุญ แต่ที่แท้หาเป็นบุญไม่

ทานที่เป็นบาป ๕ อย่าง คือ

๑.มัีชชทาน (ให้น้ำเมา)
๒. สมัชชทาน  (ให้มหรสพ)
๓.  อิตถีทาน  (ให้สตรี)
๔. อุสภทาน  (ท่านอธิบายว่าปล่อยให้โคอุสภะ*เข้าไปในฝูงโค)
๕. จิตรกรรมทาน  (ให้ภาพยั่วยุกิเลส  เช่น  ภาพสตรีและบุรุษเสพเมถุน),


ในคัมภีร์มิลินทปัญหา(มิลินท.๓๕๒) กล่าวถึง
ทานที่ไม่นับว่าเป็นทาน อันนำไปสู่อบาย ๑๐ อย่าง
ได้แก่ ๕ อย่างที่กล่าวแล้ว และเพิ่มอีก ๕ คือ

๖. สัตถทาน (ให้ศัสตรา)
๗. วิสทาน (ให้ยาพิษ)
๘. สังขลิกทาน (ให้โซ่ตรวน)
๙. กุกกุฏสูกรทาน (ให้ไก่ให้สุกร)
๑๐. ตุลากูฏมานกูฏทาน (ให้เครื่องชั่งตวงวัดโกง);


สำหรับสมัชชาทาน พึงดู สาธุกีฬา
******************************************************************


สาธุกีฬา  กีฬาที่ดี,  การละเล่นที่ดีงาม เป็นประโยชน์;  


เป็น คำในชั้นอรรถกถา เฉพาะอย่างยิ่งที่เล่าว่า เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว มีสาธุกีฬา ๗ วัน ต่อเนื่องและประสานกับการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ,  แม้ในการปรินิพพานของพระปัจเจกาพุทธเจ้าและพระอรหันต์หลายท่าน ก็มีเรื่องเล่าถึงการเล่นสาธุกีฬา ๗ วัน และการบูชาพระธาตุ;


สาธุกีฬามีลักษณะสำคัญคือ  มิใช่เล่นเพื่อความสนุกสนานบันเทิงของตนเอง แต่เล่นให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น  และไม่ขัดต่อสัมปรายิกัตถะ  (ประโยชน์ด้านจิตใจและปัญญา) ให้ก่อกุศลมาก เช่น มีคีตะคือเพลงหรือการขับร้องที่กระตุ้นเตือนใจให้ระลึกถืงความจริงของ ชีวิตและคิดที่จะไม่ประมาท เร่งสร้างสรรค์ทำความดีพร้อมทั้งเป็นการสักการะบูชาพระผู้ปรินิพพาน
*****************************************

เชิงอรรถ
โคอุสภะ คือ โคตัวผู้ ในที่นี้หมายความว่า เอาโคมาปล่อยให้ผสมพันธ์กัน 
การเอาความหมาย จึงไม่ควรถือเอาเฉพาะชนิดสัตว์ หรือเพศของสัตว์อย่างเดียว 
ซึ่งเป็นเพียงตัวอย่างที่ยกมาตั้ง
แต่พึงจับเอาหลักมาใช้วินิจฉัยเรื่องอื่นๆ ทำนองนี้ด้วย


  


3 ความคิดเห็น:

  1. รู้สึกว่าจะสนุกสนานกับการแต่งบล็อคนะ :)

    อือ เคยอ่านเรื่องทานที่ไม่เป็นบุญนี้จากสปิริตวิทอิน คือ รวมดนตรีด้วย สมัยเข้าไปห้องศาสนาพันทิปใหม่ๆ ตอนนั้นยังไม่ออกจากวงการบันเทิง อ่านแล้วก็สะดุ้ง 555 เพราะว่าไรท์ซีดีเพลงแจกเพื่อนกันสนุกสนาน (แต่ต้นฉบับเป็นของแท้นา) ก็คิดว่า เอาหนะ ไม่เป็นบุญก็ไม่เป็นบุญ เป็นน้ำใจของเพื่อนที่มีต่อกันคงไม่เสียหาย อิอิ

    ตอบลบ
  2. เพลงๆหนึ่งอาจมีทั้งลักษณะของสาธุกีฬ่ากะบาปทานได้มังครับ เพียงแต่ว่าส่วนที่ชวนให้เกิดความคิด หรือชวนให้มัวเมาอันไหนจะมากกว่า

    แต่เพลงที่นิยมกันสมัยนี้ คงไม่เชิงเป็นสาธุกีฬาที่เด่นชัดเท่าไรหรอกเนาะ : )

    ตอบลบ
  3. มาโพสต์เพิ่มนิดหน่อย

    คือเรื่องให้ของอะไรใครแล้วจะเป็นบุญหรือเป็นบาปนี้
    ถ้าไม่อยากดูจุกจิกมาก ก็พิจารณาแค่ว่า
    ของที่ให้นั้นจะส่งผลแ่ก่ผู้รับขณะนั้นในเชิงเกื้อกูลกุศล
    หรือเป็นโทษแก่เขามากกว่า อันนี้ด้านปัญญา

    อีกด้านคือ เจตนาเราตอนให้ต้องการอย่างไร ต้องการให้ผู้รับได้เสพสิ่งจรรโลงใจที่แฝงอยู่ในนั้น หรืออยากให้ผู้รับได้เสพสนุกเพลินเรื่อยเปื่อยเป็นต้น อันนี้ด้านเจตนาเรา

    ถ้าสองด้านนี้เราผ่าน ที่เหลือก็คงไม่ต้องพิจารณามาก
    อย่างข้อ1ข้อ2... เป็นต้นในทานบาปที่ท่านกล่าวถึง
    ผมคิดว่าท่านคงยกตัวอย่างมาให้เราพิจารณาเป็นแนวทางแหละครับ

    พิมพ์เสียยาว ที่จริงกะฉวยโอกาสลองกล่องคอมเมนท์ที่เพิ่งแต่งใหม่ด้วยแหละ : )

    ตอบลบ