โดย พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ ปยุตฺโต)
หนังสือตีพิมพ์ครั้งที่ 1 ปี2540 โดย ธรรมสภา
ตอน 1. ความนำ
เกณฑ์วินิจฉัยความหมายและคุณค่าของพุทธธรรม
ตอน 2. ธรรมเป็นอุปกรณ์ เปรียบเหมือนยานพาหนะ
ตอน 3. ธรรมมีทั้งแง่ลบและแง่บวก
ตอน 4. ธรรมในแง่สาระและรูปแบบ
ตอน 5. ธรรมในแง่การเข้าถึงกับการวางท่าที
ตอน 6. ธรรมที่คงตัวกับธรรมที่ปรับเปลี่ยนได้ (หน้านี้)
ตอน 7. ธรรมที่เป็นกุศลกับอกุศลเป็นปัจจัยกันได้
ตอน 8. กิจกรรมสนองตัญหากับกิจกรรมทางปัญญา และบทส่งท้าย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ตอน 8. กิจกรรมสนองตัญหากับกิจกรรมทางปัญญา และบทส่งท้าย
๕. ธรรมที่คงตัวและธรรมที่ปรับได้
ตอนนี้มีอีก ๒ ข้อที่เป็นข้อสั้นๆ คือ ธรรมะที่คงตัวกับธรรมะที่ปรับได้ ธรรมะที่คงตัว หมายถึง หลักธรรมประเภทที่แสดงหลักความจริงอันแน่นอนตายตัว หรือใช้ได้ตลอดทุกาลทุกสมัย ธรรมที่ปรับได้หมายถึง หลักธรรมที่พึงปรับหรือนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมตามสภาพแวดล้อม สองอย่างนี้ถ้าไม่รู้จักแยกก็เกิดความไขว้เขวได้มาก เช่น มีผู้พูดว่า พระพุทธศาสนาตั้งนานมาสองพันห้าร้อยกว่าปีแล้ว ตอนนี้ควรจะปรับปรุงแก้ไขหรืออะไรทำนองนี้ อันนี้ก็เป็นเพราะไม่เข้าใจระหว่างธรรมะที่คงตัวกับธรรมะที่ปรับได้
ธรรมะที่คงตัวนั้น มีทั้งในแง่สัจธรรมและในแง่จริยธรรม ในแง่ของสัจธรรมก็คือ หลักที่แสดงสภาวะของสิ่งทั้งหลาย อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลายจะอุบัติขึ้นหรือไม่อุบัติขึ้นก็ตาม สิ่งทั้งหลายก็เป็นอย่างนั้นๆ เช่น หลักไตรลักษณ์ว่า สิ่งทั้งหลายไม่มีความคงที่ มีความทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ และไม่มีตัวตนของมันเอง และหลักปฏิจจสมุปบาทที่แสดงความเป็นไปตามเหตุปัจจัย เป็นต้น พวกนี้เรียกว่าธรรมะที่คงตัว ในแง่จริยธรรมก็ได้แก่ หลักจริยธรรมที่เกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์โดยตรง ตราบใดที่คนยังเป็นคน หลักจริยธรรมสำหรับความเป็นคนก็ยังคงตัว คนนั้นไม่เหมือนกัน คือเป็นคนเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน ในกรณีที่เป็นคนไม่เหมือนกัน หรือเป็นคนแต่อยู่ในสภาพแวดล้อมต่างกัน ก็มีธรรมะที่ปรับได้สำหรับแต่ละคน และธรรมะสำหรับให้คนไปเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมสถานการณ์ต่างๆ ที่ไม่เหมือนกัน อันนี้ก็เป็นธรรมะที่ถูกปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมสถานการณ์นั้นๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น